เรามาสำรวจดูตัวเราก่อนว่า เหมาะสมกับการเป็น โปรแกรมเมอร์ หรือไม่ ลองถามตัวเองดูสิว่า คุณต้องการเป็นโปรแกรมเมอร์ อย่างจริงจังหรือไม่ แล้วถ้าเราไม่ได้จบคอมพิวเตอร์มาหล่ะ เราเป็นโปแกรมเมอร์ได้หรือไม่ ตรงนี้ผมเองก็ขอตอบจากความรู้สึก สวนตัวเลยว่า ไม่จำเป็นครับ เราลองทบทวนและ มองโลกให้กว้างครับ ว่าโปรแกรมเมอร์ที่เก่งๆ หลายคน ไม่ได้จบคอมพิวเตอร์มาโดยตรง และอีกหลายคนก็จบคอมพิวเตอร์มาโดยตรง แต่บางคนจบคอมพิวเตอร์มาโดยตรง ก็เขียนโปรแกรมไม่เป็น เป็นแค่ งูงูปลาปลา ก็ถมไป สาเหตุมาจากอะไรหรือครับ ใจเขาไม่รักกับการเป็น โปรแกรมเมอร์ไงครับ ดังนั้นวุติการศึกษาไม่ใช่อุปสรรค ในการเป็นโปรแกรมเมอร์ครับ
สาเหตุทีผมบอกว่า วุฒิการศึกษา ไม่ใช่อุปสรรคต่อการเป็นโปรแกรมเมอร์ ก็เนื่องจาก ตอนเรายังเด็ก เราไม่ได้เลือกเรียนสายการเรียน ที่เรารักครับ แต่เราเลือกเรียน ตามเพื่อนบ้าง ตามพ่อแม่ผู้ปกครองต้องการบ้าง เพราะในช่วงวัยนั้น เรากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มักตามเพื่อน หรือบางคนเรียนเพื่อตามใจพ่อแม่ แต่พอมาถึงวัยหนึ่ง เราก็มารู้ตัวว่าเราไม่ได้ชอบมันเลย ก็ทำให้เราเสียเวลาไปมากแล้ว จะกลับไปเรียน หรือก็ เสียค่าใช้จ่ายมาก แล้วแต่เหตุผล ของแต่ละคนไป ดังนั้นผมจึงขอ แนะนำว่า จงอย่ายึดติดกับค่านิยมของ คำว่าวุติการศึกษา ปริญญา ต่างๆ ทั้งสิ้นหากเราอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ มันอยูที่เราต้องการจะเป็นโปรแกรมเมอร์หรือไม่ต่างหาก รักการเป็นโปรแกรมเมอร์ มากแค่ไหน ก็ทุ่มเทให้กับมันเต็มที่
คุณจะมีความเพรียรพยายามหรือไม่ เพราะการเป็นโปรแกรมเมอร์ จะต้องมีความ เพรียร ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหา ต่างๆ เมื่อเขียนโปรแกรมแล้วติดปัญหา หากคุณเขียนโปรแกรมแล้วติดปัญหา คุณต้องพยายามแก้ไขปัญหาให้ได้ อย่ายอมแพ้เป็นอันขาด หากคุณยอมแพ้ คุณก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นโปรแกรมเมอร์ ดังนั้น ความเพรียรพยายาม เป็นกติกาสำคัญข้อหนึ่งของโปรแกรมเมอร์เลยทีเดียว ต้องมีความพากเพียรไม่ย่อท้อต่อสิ่งได และจะยอมแพ้ก้ต่อเมื่อ หาหนทางจนสุดกู่แล้วก็ไม่พบ จึงจะยอมแพ้ แต่การยอมแพ้ ต้องยอมแพ้อย่าง โปรแกรมเมอร์ คือ ยอมแพ้ในเวลานั้น เท่านั้น แต่เก็บมันเอาไว้เป้นการบ้าน ค่อยคิดค่อยหาทางแก้ปัญหา มันอีกทีหลังไปเรื่อยๆ มันต้องทำได้สิ สักวันคุณก็จะแก้ปัญหาได้ หมายความว่า ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ ก็อย่าจมอยู่กับมัน แต่ พักมันเอาไว้ก่อนต่างหากหล่ะ สุดท้ายก็แปลว่า ไม่ยอมแพ้นั่นเอง
โปรแกรมเมอร์จะต้องคิด อย่างที่คนอื่นเขาไม่คิด ทำในสิ่งที่ตนอื่นเขาไม่ทำ หมายความว่า เราต้องคิดในสิ่งที่คนอื่น คิดไม่ถึง ทำในสิ่งที่คนอื่นเขาทำไม่ได้ เพราะโปรแกรมเมอร์ จะต้องสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ออกมาเสมอ ดังนั้น หากเราคิดแต่จะทำตามคนอื่น ลอกเรียนแบบคนอื่นๆ อยู่ เราก็ไม่สามารถพัฒนาโปรแกรมของเราให้คนอื่น เขารู้สึก ประทับใจ และต้องการได้ เพราะอะไรก็ตามที่ง่ายๆ หลายคนก็มักจะทำกัน หาที่ไหนก็ได้ ราคาและคุณค่าเลยไม่มี แต่ถ้าอะไรที่ยากๆ หายาก ไมาค่อยมีคนทำ หรือไม่มีใตรทำเลย นั่นแหละครับ ของสิ่งนั้นมันจะมีค่า น่าจดจำและประทับใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น