วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553

อาการต่างๆๆหลังติดไวรัส

การแก้ไขอาการผิดปกติหลังติดไวรัส

เมื่อเครื่องเราติดไวรัส โดยปกติพวกไวรัสจะทำการซ่อนตัวตามที่ต่างๆ ในเครื่อง ในขณะเดียวกันมันก็จะทำการป้องกันไม่ให้เราสามารถหามันพบ หรือทำการปิดฟังก์ชั่นต่างๆ เพื่อไม่ให้เราสามารถเอามันออกได้ง่ายๆ ซึ่งอาการเหล่านี้จะยังคงอยู่ถึงแม้ว่าเราจะทำการฆ่าไวรัสไปหมดแล้วก็ตาม หรือเราจะใช้อาการเหล่านี้ในการทดสอบดูว่า เครื่องเราติดไวรัสหรือไม่ ก็ได้
สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ เมื่อเราทำการแก้ไขอาการต่างๆ แล้ว แต่ไม่หาย อาจเป็นเพราะว่าเครื่องเรายังคงมีไวรัสหลงเหลืออยู่

อาการต่างๆ หลังติดไวรัส

  1. วิธีแก้ไขเมื่อไม่สามารถตั้งค่า Automatic Updates ได้
  2. วิธีแก้เมื่อ Windows Explorer ไม่แสดงนามสกุล exe ออกมา
  3. วิธีแก้ไขเมื่อมีหน้าต่างแจ้งว่า Windows cannot find 'system32.exe' ทุกครั้งที่เปิดเครื่อง
  4. เมื่อตัวเลือก Show Hidden files and folders ของ Windows Explorer หาย
  5. เมื่อเมนู Search หาย และไม่สามารถกดปุ่ม Windows + F เพื่อทำการค้นหาได้
  6. เมนู Run หาย
  7. เปิดโปรแกรม Registry Editor ไม่ได้
  8. Control Panel หาย และ เมื่อคลิกขวาที่ Desktop ก็ไม่สามารถคลิกเข้าไปใน Properties ได้
  9. กดปุ่ม Ctrl + Alt + Del เพื่อเปิดโปรแกรม Task Manager ไม่ได้
  10. เมนู Folder Options... ใน Windows Explorer หาย
  11. ดับเบิ้ลคลิกที่ไดว์ต่างๆ แล้วขึ้น Open With หรือ Search
  12. วิธีแก้ไข เมื่อเมนู All Programs หาย

สร้างเว็บง่ายๆๆกับฟรี Google

หลายๆ คนที่ใช้อินเตอร์เน็ทในตอนนี้ คงจะได้เห็นเว็บไซต์ต่างๆ มากมาย จนบางครั้งก็อยากมีเว็บไซต์ของตัวเองบ้าง แต่ก็ห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย และความยุ่งยากในการสร้างเว็บ ในขณะนี้ google ได้เปิดโอกาสให้เราสามารถมีเว็บไซต์ของตัวเองได้แล้วโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งจุดเด่นของเว็บฟรีของกูเกิ้ลนี้คือ ความง่ายในการสร้างเว็บ และให้พื้นที่ฟรีถึง 100 เมกะไบต์ (เอามาเป็นที่เก็บภาพยังคุ้มเลย)

เริ่มต้นสร้างเว็บไซต์กับกูเกิ้ล


1. ให้คลิกไปที่ http://sites.google.com/ ถ้าใครมีอีเมล์ของ gmail อยู่แล้ว ก็ใช้อีเมล์ของ gmail นั่นแหละ กรอกลงในช่อง อีเมล์ และรหัสผ่าน จากนั้นก็คลิกที่ปุ่ม "ลงชื่อเข้าใช้งาน" ได้เลย


2. จากนั้นให้คลิกที่ปุ่ม "สร้างไซต์" เพื่อเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ของเราเอง


3. ทางกูเกิ้ลจะแบ่งขั้นตอนในการสร้างออกเป็นส่วนๆ ดังภาพ


4. ส่วนแรกคือ "ชื่อไซต์" ตรงนี้จะเป็นการตั้งชื่อเว็บไซต์ ซึ่งต้องมีตัวอักษรอยู่ในระหว่าง 6 - 30 ตัวอักษร เมื่อเราพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง "ชื่อไซต์" ชื่อนั้นก็จะไปแสดงอยู่ในช่อง "ไซต์ของคุณจะอยู่ที่ URL นี้:" ตรงจุดนี้จะเป็น url ของเว็บไซต์เรา เช่นเราตั้งชื่อไซต์ว่า uppic2 เมื่อใครจะเข้าเว็บไซต์ของเราก็จะต้องพิมพ์ http://sites.google.com/site/uppic2 ซึ่งส่วนนี้จะไม่สามารถแก้ได้อีก (จริงๆ แล้วเราสามารถตั้งชื่อเว็บไซต์ให้ต่างกับ ค่าใน url ได้ แต่ตอนนี้ตั้งค่าให้เหมือนกันไปก่อนดีกว่า จะได้ไม่งง เดี๋ยวเราค่อยมาแก้ชื่อเว็บไซต์ในภายหลังก็ได้)


5. เราไม่สามารถตั้งซ้ำกับชื่อที่มีคนอื่นตั้งไว้แล้ว หรือชื่อ gmail ของคนอื่น เช่น คำว่า savepic, keeppic เป็นต้น ถ้าเราตั้งชื่อซ้ำ เราจะเห็นข้อความว่า "ตำแหน่งที่คุณเลือกไม่สามารถใช้งานได้" ขึ้นมา เมื่อเราคลิกที่ปุ่ม "สร้างไซต์" ถ้ามีข้อความนี้ขึ้นมา เราจะต้องตั้งชื่อเว็บไซต์ใหม่เพื่อไม่ให้ซ้ำกับคนอื่น


6. ส่วนที่สอง คือ "คำอธิบายไซต์" ตรงนี้เราก็เขียนคำอธิบายสั้นๆ ก็พอว่าจะเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับอะไร



  • ส่วน "เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่" ถ้าเนื้อหาไม่เหมาะสำหรับเด็กก็อย่าลืมติ๊กถูกด้วยนะ


    7. ส่วน "ใช้ร่วมกัน" ถ้าเลือกที่ "ทุกคนในโลก สามารถดูไซต์นี้" ก็ไม่มีปัญหาครับ ผ่านไปขั้นตอนต่อไปได้เลย แต่ถ้าเลือกที่ "มีเพียง บุคคลที่ฉันระบุ ที่สามารถดูไซต์นี้" ก็หมายความว่า คนที่จะเข้ามาดูเว็บไซต์ของเราได้ จะต้องเป็นคนที่เรากำหนดไว้เท่านั้น ในที่นี้เราจะกำหนดเป็น "ทุกคนในโลก สามารถดูไซต์นี้" ถ้าเราเปลี่ยนใจ เราสามารถเปลี่ยนได้ในภายหลัง


    8. ส่วน "ชุดรูปแบบไซต์" จะเป็นรูปแบบ และสีสันโดยรวมของเว็บไซต์เรา ซึ่งตอนนี้อาจจะดูไม่ออกว่าสวยหรือไม่ จากภาพจะเห็นเพียงแค่สามรูปแบบเท่านั้น ถ้าเราต้องการดูส่วนที่เหลือ ก็ให้คลิกที่ "ชุดรูปแบบเพิ่มเติม..." และหลังจากสร้างเว็บไปแล้ว ถ้าเราไม่พอใจ เราก็ยังสามารถแก้ไขได้อีก


    9. ส่วนสุดท้ายคือ พิมพ์รหัส และสร้างไซต์ ให้เราพิมพ์ตัวอักษรตามที่เขากำหนด จากภาพจะเป็น "deste" จากนั้นก็คลิกที่ปุ่ม "สร้างไซต์" แต่ถ้าพิมพ์ผิด ก็จะมีตัวอักษรขึ้นมาว่า "โปรดพิมพ์รหัสอีกครั้ง" ซึ่งตัวอักษรที่เขากำหนดอาจจะเป็นตัวเดิม หรืออาจจะเปลี่ยนใหม่ก็ได้


    10. ถ้าหากว่าเราทำถูกต้องหมดทุกอย่างก็จะได้ดังภาพ



    หมายเหตุ
    1. ถ้าหากเราคลิกที่ปุ่ม "สร้างไซต์" แล้วไม่ได้เหมือนดังภาพในข้อ 11 ให้ตรวจสอบดูขั้นตอนที่ 5 และ 10 ใหม่ ว่าถูกต้องหรือไม่
    2. เว็บไซต์ของ google นั้นไม่รองรับ php, asp และ html แต่เราสามารถสร้างเว็บโดยใช้เครื่องมือที่ทางกูเกิ้ลเตรียมไว้ให้
    3. เราสามารถสร้างเว็บได้มากกว่า 1 เว็บต่อ 1 บัญชี
    4. เมื่อเราสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาแล้ว เราจะไม่สามารถเปลี่ยนชื่อ url ได้ ถ้าต้องการเปลี่ยน url เราต้องสร้างเว็บใหม่ขี้นมา แล้วลบเว็บเก่าที่ไม่ต้องการออก
  • วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553

    ทำอย่างไรไรถึงจาเป็นโปรแกรมเมอร์มืออาชีพ

                   เรามาสำรวจดูตัวเราก่อนว่า เหมาะสมกับการเป็น โปรแกรมเมอร์ หรือไม่ ลองถามตัวเองดูสิว่า คุณต้องการเป็นโปรแกรมเมอร์ อย่างจริงจังหรือไม่ แล้วถ้าเราไม่ได้จบคอมพิวเตอร์มาหล่ะ เราเป็นโปแกรมเมอร์ได้หรือไม่ ตรงนี้ผมเองก็ขอตอบจากความรู้สึก สวนตัวเลยว่า ไม่จำเป็นครับ เราลองทบทวนและ มองโลกให้กว้างครับ ว่าโปรแกรมเมอร์ที่เก่งๆ หลายคน ไม่ได้จบคอมพิวเตอร์มาโดยตรง และอีกหลายคนก็จบคอมพิวเตอร์มาโดยตรง แต่บางคนจบคอมพิวเตอร์มาโดยตรง ก็เขียนโปรแกรมไม่เป็น เป็นแค่ งูงูปลาปลา ก็ถมไป สาเหตุมาจากอะไรหรือครับ ใจเขาไม่รักกับการเป็น โปรแกรมเมอร์ไงครับ ดังนั้นวุติการศึกษาไม่ใช่อุปสรรค ในการเป็นโปรแกรมเมอร์ครับ




                    สาเหตุทีผมบอกว่า วุฒิการศึกษา ไม่ใช่อุปสรรคต่อการเป็นโปรแกรมเมอร์ ก็เนื่องจาก ตอนเรายังเด็ก เราไม่ได้เลือกเรียนสายการเรียน ที่เรารักครับ แต่เราเลือกเรียน ตามเพื่อนบ้าง ตามพ่อแม่ผู้ปกครองต้องการบ้าง เพราะในช่วงวัยนั้น เรากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มักตามเพื่อน หรือบางคนเรียนเพื่อตามใจพ่อแม่ แต่พอมาถึงวัยหนึ่ง เราก็มารู้ตัวว่าเราไม่ได้ชอบมันเลย ก็ทำให้เราเสียเวลาไปมากแล้ว จะกลับไปเรียน หรือก็ เสียค่าใช้จ่ายมาก แล้วแต่เหตุผล ของแต่ละคนไป ดังนั้นผมจึงขอ แนะนำว่า จงอย่ายึดติดกับค่านิยมของ คำว่าวุติการศึกษา ปริญญา ต่างๆ ทั้งสิ้นหากเราอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ มันอยูที่เราต้องการจะเป็นโปรแกรมเมอร์หรือไม่ต่างหาก รักการเป็นโปรแกรมเมอร์ มากแค่ไหน ก็ทุ่มเทให้กับมันเต็มที่
                    คุณจะมีความเพรียรพยายามหรือไม่ เพราะการเป็นโปรแกรมเมอร์ จะต้องมีความ เพรียร ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหา ต่างๆ เมื่อเขียนโปรแกรมแล้วติดปัญหา หากคุณเขียนโปรแกรมแล้วติดปัญหา คุณต้องพยายามแก้ไขปัญหาให้ได้ อย่ายอมแพ้เป็นอันขาด หากคุณยอมแพ้ คุณก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นโปรแกรมเมอร์ ดังนั้น ความเพรียรพยายาม เป็นกติกาสำคัญข้อหนึ่งของโปรแกรมเมอร์เลยทีเดียว ต้องมีความพากเพียรไม่ย่อท้อต่อสิ่งได และจะยอมแพ้ก้ต่อเมื่อ หาหนทางจนสุดกู่แล้วก็ไม่พบ จึงจะยอมแพ้ แต่การยอมแพ้ ต้องยอมแพ้อย่าง โปรแกรมเมอร์ คือ ยอมแพ้ในเวลานั้น เท่านั้น แต่เก็บมันเอาไว้เป้นการบ้าน ค่อยคิดค่อยหาทางแก้ปัญหา มันอีกทีหลังไปเรื่อยๆ มันต้องทำได้สิ สักวันคุณก็จะแก้ปัญหาได้ หมายความว่า ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ ก็อย่าจมอยู่กับมัน แต่ พักมันเอาไว้ก่อนต่างหากหล่ะ สุดท้ายก็แปลว่า ไม่ยอมแพ้นั่นเอง
                      โปรแกรมเมอร์จะต้องคิด อย่างที่คนอื่นเขาไม่คิด ทำในสิ่งที่ตนอื่นเขาไม่ทำ หมายความว่า เราต้องคิดในสิ่งที่คนอื่น คิดไม่ถึง ทำในสิ่งที่คนอื่นเขาทำไม่ได้ เพราะโปรแกรมเมอร์ จะต้องสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ออกมาเสมอ ดังนั้น หากเราคิดแต่จะทำตามคนอื่น ลอกเรียนแบบคนอื่นๆ อยู่ เราก็ไม่สามารถพัฒนาโปรแกรมของเราให้คนอื่น เขารู้สึก ประทับใจ และต้องการได้ เพราะอะไรก็ตามที่ง่ายๆ หลายคนก็มักจะทำกัน หาที่ไหนก็ได้ ราคาและคุณค่าเลยไม่มี แต่ถ้าอะไรที่ยากๆ หายาก ไมาค่อยมีคนทำ หรือไม่มีใตรทำเลย นั่นแหละครับ ของสิ่งนั้นมันจะมีค่า น่าจดจำและประทับใจ